สรุป
อาตมาจะสรุปหลักการปฏิบัติสั้นๆ ให้ฟังอีกครั้ง
๑.
ขั้นแรกให้เราคอยจับความเคลื่อนไหวของรูปนาม การ
เคลื่อนไหวของรูปกายทุกอิริยาบถ
เมื่อจับได้แล้วเราจะรู้จักเรื่อง
สมมติที่ตาเห็นสัมผัสได้ด้วยตาจับได้ด้วยมือ, เป็นวัตถุภายนอก.
๒ เมื่อทำได้ตามข้อ ๑. แล้ว
จะมีความรู้ขึ้นเล็กน้อย, เรียกว่า
วิปัสสนูปกิเลส, เราต้องพยายามตัดออกไป
อย่าไปดีใจอยู่กับความรู้นี้
ที่มันเกิดขึ้นมาทีหลัง, เราต้องคอยดูจิตดูใจต่อไป.
เมื่อเราเห็น-เรารู้-
เราเข้าใจจิตใจของเราซาบซึ้งดีแล้ว
มันจะทำลายความโกรธ-ความ
โลภ-ความหลงลงไปได้บ้าง.
๓ เมื่อเราทำลายความโกรธ-ความโลภ-ความหลงลงไปได้
เล็กน้อยนี้
จะทำให้เกิดปีติ.
เมื่อเกิดปีติ
ก็ให้เรากำหนดรู้ปีติ แต่
อย่าเข้าไปในปีตินั้น, เราต้องถอนตัวออกจากปีติ
คอยดูจิตใจของเรา
ต่อไป.
ตอนนี้มันจะเกิดญาณปัญญาปรากฏขึ้นมาทำลายความยึดมั่น
ถือมั่นให้ลดน้อยลงไป.
๔ เมื่อความยึดมั่นถือมั่นลดน้อยลงไปแล้ว ก็จะเห็น-รู้-เข้าใจ
ความเป็นปกติ, กายก็ปกติ
วาจาก็ปกติ จิตใจก็ปกติ. ตอนปกติ
นี่แหละเรียกว่า ศีล-สมาธิ-ปัญญา.
๕ เมื่อเห็น "อาการเกิดดับ" ถ้าไม่เข้าใจจะเป็นวิปลาส, ถ้ารู้สึก
อยู่พร้อมกับความจบนั้นการปฏิบัติก็ถึงที่สุด.
ฉะนั้น ขอเตือนให้ท่านทั้งหลายพยายามปฏิบัติไป
จนได้พบได้
เห็นความคิดของตัวเอง
และถอนตัวออกจากความคิด จงทุกๆ คน
เทอญ.
พิมพ์โดย คุณ ชัยพัทธ์ โพธิสาร