ทางสงบ

ทางสงบ หน้า 79-81

ในโอกาสต่อไปนี้ ขอให้ท่านทั้งหลายจงตั้งใจฟังให้เกิดสติปัญญาตามสมควรแก่เวลา.

(ให้รู้จักทุกข์)
โดยทั่วไปคนเราไม่ต้องการความทุกข์ เกลียดความทุกข์. แล้วทุกข์เกิดขึ้นได้อย่างไร. ทุกข์เกิดขึ้นได้เพราะเราไม่รู้, ทุกข์นั้นไม่ได้มีอยู่ที่ตัวเรา, และไม่ได้เกิดอยู่เสมอไป. ความมีอยู่จริงแท้แน่นอนนั้นคือ ความปกติ, โดยธรรมชาติ จิตใจของคนแต่ละคนอยู่ในภาวะที่ปกติ. ในขณะที่เราทำงาน, ถ้าทำด้วยความหลงผิดแล้ว เรียกว่าความทุกข์ทั้งนั้น, คนส่วนมากทำงานด้วยความทุกข์เพราะไม่เห็นทุกข์นั่นเอง. คนที่ไปดูหนังดูละครนั้น ไปเพราะทุกข์พาไป เนื่องจากเราไม่ได้มองจิตใจของเราเอง. ขณะที่เราอยากไปดูหนังนั้นน มันคิดขึ้นมาเพียงวูบเดียวเท่านั้นว่าอยากไปดูหนัง, ไม่ได้คิดอยู่ตลอดวัน. เมื่อคิดแล้ว เราไม่ได้เห็นความคิด, เราเพียงแต่รู้ความคิด แล้วเราก็ทำไปตามความคิดนั้น, จึงเรียกว่าไปด้วยทุกข์. คนสูบบุหรี่ก็เหมือนกัน, บางทีเขาไม่ได้คิดที่จะสูบบุหรี่เลย แต่เขาทำไปตามอารมณ์, เขาเอาบุหรี่ขึ้นมาสูบกันเพราะคิดว่าเป็นความสุข แต่ความจริงนั้นทุกข์บังคับให้ทำไป.



(ทุกข์คือของเหม็น)
คำว่าทุกข์นี้ พระพุทธเจ้าตรัสเรียกว่า ทุกข์บ้าง กิเลสบ้าง ของเหม็นบ้าง. เวลาพูดถึงทุกข์หรือกิเลสรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าเกลียด ตามความหมายของพุทธศาสนา. ความทุกข์คือของสกปรกของเหม็น ไม่มีใครต้องการ. คนเราพอตายแล้วก็เน่าเหม็น แต่เราก็ยังช่วยกันชำระล้างได้; ส่วนอุจจาระเป็นของเหม็นที่เรารังเกียจมาก ไม่มีใครอยากจับ อยากแตะต้อง, แต่ของเหม็นถึงขนาดนี้พระพุทธเจ้ายังบอกว่ายังไม่เหม็นเท่าไร ยังจับได้ ยังล้างออกได้. ของเหม็นที่พระพุทธเจ้าท่านว่าเหม็นจริงๆ นั้น คือความโกรธ ความโลภ ความหลง ที่มันแอบแฝงเกิดขึ้นมาภายในจิตใจของเรา, อันนี้ท่านเกลียดมาก. ถ้าจิตใจของผู้ใดยังมีความโกรธ ความโลภ ความหลงอยู่ ท่านว่าเหม็นยิ่งกว่าอุจจาระเสียด้วยซ้ำ.
คนที่ไม่รู้ไม่เห็นไม่เข้าใจ พอจิตใจคิดขึ้นมาวูบเดียวเท่านั้นความหลงผิดก็เกิดขึ้นทันที, การเกิดเช่นนี้พระพุทธองค์ตรัสว่าเป็นมลทิน. คำว่า "มลทิน" ก็คือ "ความหลงผิด" นั่นเอง. ทั้งที่เราไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นไม่เคยดูจิตใจของเรา เราก็ยังพูดเอาเองว่า "เราเห็น" , แต่ที่จริงไม่ใช่ "เห็น" ; เป็นเพียง "รู้" ว่าคิดอะไรเท่านั้น, เสร็จแล้วก็ทำไปตามความคิดนั้น. ถ้าพูดว่า "เห็น" , ต้องหมายถึงว่า เราเห็นกิเลส คือเห็นว่าในความคิดนั้นมันมีความโกรธความโลภความหลงอยู่ด้วยหรือเปล่า คนจะเห็นอย่างนี้ได้ต้องมาปฏิบัติธรรมเสียก่อน.